Skip to content

Top Of The World

  • Home
  • sport news
  • technology
  • travel & lifestyle
  • world news

Top Of The World

Just another WordPress site

เล่นหุ้นอย่างไรให้ไม่ขาดทุน

December 19, 2020 by admin

เล่นหุ้นอย่างไรให้ไม่ขาดทุน ทุกครั้งที่ได้ยินคนรอบๆ ตัว เพื่อนสนิทมิตรสหายหลายๆ ท่าน เริ่มพูดคุยกันว่า “อยากจะเริ่มต้นเล่นหุ้น” ทีไร บอกตรงๆ ว่าใจสั่นขึ้นมาทุกทีครับ เพราะใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจที่คนหลายคนสนใจเรื่องการลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับตัวเอง แต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกหวั่นๆ เพราะทุกครั้งที่เป็นแบบนี้ นั่นแปลว่าจะมี “มือใหม่” หลายๆ คนที่ขาดทุนจนเข็ดและขยาดตลาดหุ้นกันไปเลยครับ

ใครหลายคนมักจะตั้งคำถามว่า ถ้าอยากจะเล่นหุ้นต้องมีอะไรบ้าง คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ คือ ต้องมี “เงิน” เป็นอันดับแรก แต่สิ่งที่สำคัญกว่าเงินที่เรามี นั่นคือ “ความรู้และความเข้าใจที่ถูกวิธีในการลงทุน” ต่างหากครับ

เอาล่ะ.. เรามาดูกันเลยดีกว่าว่า เคล็ดลับในการเล่นหุ้นให้ได้กำไรทั้ง 5 ข้อนี้ มีอะไรบ้าง

1. เปลี่ยนคำว่า “เล่น” เป็น “ลงทุน”

สิ่งแรกเราต้องเข้าใจว่า ความแตกต่างระหว่างของคำว่า “เล่นหุ้น” กับ “การลงทุนในหุ้น” นั่นคือ “เป้าหมาย“ ในการลงทุน เพราะคำว่า “เล่นหุ้น” นั้น มักจะหมายถึงการเล่นเก็งกำไรในระยะสั้นๆ ซึ่งต้องการกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น แต่ “การลงทุนในหุ้น” ต้องการความมั่นคงในระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเงินปันผล หรือมูลค่าของหุ้นในอนาคต

ดังนั้นสำหรับมือใหม่ทุกคน ขอแนะนำให้เริ่มต้นตั้งเป้าหมายที่การลงทุนระยะยาวเป็นลำดับแรก อย่าคิดที่จะซื้อขาย “เล่นๆ” เพื่อหวัง “เก็งกำไร” เพราะสุดท้ายแล้วมักจะจบลงที่ลุ้นกันจนตัว “เกร็ง” ทุกทีเลยเชียว

2. ต้องใช้ “เงินเย็น” เท่านั้น

เงินเย็น คือ เงินที่เราสามารถเสียไปโดยที่ไม่เดือดร้อน หรือพูดง่ายๆ คือ เงินที่หายไปก็ไม่เสียดายนั่นเอง เพราะการลงทุนในหุ้นนั้นมี “ความเสี่ยง” ดังนั้นถ้าหากเราเอาเงินที่เกี่ยวข้องกับการใช้ “ชีวิต” ไปเสี่ยง แบบนั้นคงไม่ดีใช่ไหมครับ

แต่การใช้เงินเย็นก็ไม่ได้แปลว่าไม่เสี่ยงนะครับ จะเงินร้อน เงินเย็น เงินคนอื่น (เอ๊ะ!) เงินแบบไหนมันก็เสี่ยงทั้งหมดเมื่อมาลงทุนในหุ้น แต่ข้อได้เปรียบของเงินเย็น คือ เป็นเงินที่ไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในทุกๆ วัน แต่มันอาจจะเจ็บใจเล็กน้อยเมื่อขาดทุน (ฮึ่ม!) เพราะหลายๆ ตัวอย่างที่ผิดพลาดและขาดทุนแบบสุดกู่ ไปไม่กลับหลับไม่ตื่น คือ ใช้เงินกู้ในการเล่นหุ้น พอเล่นแล้วเสีย คราวนี้ก็เพลียกว่าเดิมเพราะต้องมีภาระทั้งดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายในชีวิตอีกด้วยครับ

นอกจากเงินเย็นแล้ว สิ่งแรกที่ควรต้องมีก่อนจะเริ่มลงทุน คือ “เงินออม” โดยอย่างน้อยต้องมีเงินออมไว้จำนวน 3-6 เท่าของรายจ่าย เผื่อไว้สำหรับเหตุฉุกเฉินและไม่คาดฝันด้วยครับ

3. รู้จัก “หุ้น” ให้ดีเสียก่อน

คำว่ารู้จักหุ้นให้ดีเสียก่อน ไม่ได้แปลว่าให้ไปทำความรู้จัก สวัสดีทักทายหุ้นที่เราต้องการลงทุนนะครับ แต่ให้รู้ก่อนว่า หุ้นตัวนั้นที่เราเลือก ประกอบธุรกิจอะไร มีผลการดำเนินงานอย่างไร ข้อมูลต่างๆ บทวิเคราะห์ ข่าว ผู้บริหาร วิสัยทัศน์ และอื่นๆ อีกมากมายที่เราต้องรู้ ถ้าถามว่ารู้แค่ไหนดี บอกตรงๆ ว่ารู้ยิ่งเยอะยิ่งดีครับ และเมื่อรู้เยอะแล้ว ต้อง “คิด วิเคราะห์ แยกแยะ” ข้อมูลให้เป็นด้วย เพื่อที่จะได้เข้าใจและวางแผนการลงทุนได้อย่างถูกต้อง

ข้อผิดพลาดใหญ่ๆ ที่มือใหม่เจอเสมอ นั่นคือ “หุ้นเพื่อนบอก” เพื่อนเรานี่แหละครับตัวดี บอกข่าวมาว่าหุ้นตัวนี้ดีๆๆ ให้เรารีบๆ ซื้อ แถมบอกราคาเป้าหมายไว้เสร็จสรรพ แต่ถ้าเราซื้อไปโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลอะไรเลย แต่รีบซื้อเพราะกลัวว่าจะ “ตกรถ” (หุ้นขึ้น แต่ไม่ได้ซื้อ) แต่พอเอาเข้าจริงๆ ผ่านไปสักพัก เรากลับ “ติดดอย” แทน เพราะว่าเจ้าเพื่อนตัวดีมันไม่เคยบอกเลยว่า ราคาที่เหมาะจริงๆ ของหุ้นตัวนี้คือเท่าไรกันแน่

คำที่น่ากลัวอีกคำ คือ “วงใน” หรือ “เค้าว่ามา” รับประกันเลยว่า ถ้าข่าวหลุดมาถึง “มือใหม่” เมื่อไรแล้วล่ะก็ ข่าวนั้นคงไม่ใช่ “วงใน” แล้วล่ะครับ

4. รู้จัก “ตัวเรา” ให้ดีพอ

รู้ก่อนว่า .. เรารับความเสี่ยงได้มากแค่ไหนกันแน่ เพราะบางคนเล่นหุ้นเพราะหวังกำไรเยอะๆ แต่รับความเสี่ยงไม่ได้ ผลสุดท้ายต้องทรมานจิตใจแทน ดูเช้า ดูเย็น ดูทั้งวัน งานการไม่ได้ทำเพราะกลัว อันนี้ก็ไม่ไหวนะครับ

อีกอย่างที่สำคัญ และต้องทบทวนตลอดเวลา นั่นคือ เป้าหมายที่เราต้องการในการลงทุน และถามตัวเองอยู่เสมอครับว่า วิธีการและสิ่งที่เราทำในการลงทุนนั้น มันทำให้เราเดินไปถึงเป้าหมายได้จริงๆ หรือเปล่า

5. รักษาต้นทุนก่อนคิดถึง “กำไร”

วิธีการลงทุนที่ดีที่สุด คือ “ไม่ขาดทุน” หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า ถ้าเล่นหุ้นแล้วไม่หวังกำไรจะเล่นไปทำไมใช่ไหมครับ แต่ความหวังที่อยากจะได้กำไรสูงๆ นั่นแหละครับ ทำให้เราทุกคนเกิดความโลภในการลงทุน จนบางครั้งมองข้ามสิ่งสำคัญหลายๆ อย่างไป ดังนั้นในการตัดสินใจซื้อหุ้นทุกครั้ง เราต้องถามตัวเองย้ำๆ ว่า เราจะลดความเสี่ยงในการขาดทุนให้ต่ำที่สุดได้อย่างไร อย่าลืม ศึกษาข้อมูลให้ดี ดูความเสี่ยงให้เหมาะสม ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะเราต้องถือหุ้นตัวนี้ไปอีกนานแสนนาน

Post navigation

Previous Post:

กรุงลอนดอนอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังโควิดขั้นสูงสุด

Next Post:

มติพรีเมียร์ลีกเปลี่ยนตัว 5 คนไม่ผ่าน แต่เพิ่มเงื่อนไขพิเศษแทน

Recent Posts

  • ดาวเคราะห์ ‘ซูเปอร์พัฟ’ ซึ่งแตกต่างจากดาวเคราะห์อื่น ๆ ที่พบในห้วงอวกาศสามารถเปลี่ยนวิธีที่เราสำรวจจักรวาลได้
  • คำพูด ‘condescending, elitist’ ของ Katie Couric ที่เรียกร้องให้ GOP ‘deprogram’ เลิกใช้ฉลากของเจอร์โนแล้วนักวิจารณ์กล่าว
  • ดูซีรี่ย์: Welcome High School Students
  • ผู้หญิงคนหนึ่งถูกจับได้ในกล้องวงจรปิดนอนบนทางรถไฟเพื่อถ่ายรูป
  • ซีดาน ทดสอบโควิด -19 ในเชิงบวกก่อนเกมอลาเบส

Recent Comments

    Archives

    • January 2021
    • December 2020
    • November 2020
    • October 2020
    • September 2020
    • August 2020
    • July 2020
    • June 2020
    © 2021 Top Of The World | WordPress Theme by Superbthemes